ราคาหลักทรัพย์:

ประวัติบริษัท

บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Pace Development Corporation Public Company Limited” ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ธุรกิจไลฟ์สไตล์รีเทลด้านอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ดีน แอนด์ เดลูก้า” ทั่วโลก โดยเป็นเจ้าของกิจการ ดีน แอนด์ เดลูก้า ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย และเป็นเจ้าของ ดีน แอนด์ เดลูก้า รูปแบบคาเฟ่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการร่วมค้า (Joint Venture) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนชำระเต็มมูลค่าแล้ว จำนวน 14,373 ล้านบาท โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 53 อาคารศิวาเทล ทาวเวอร์ชั้นที่ 16 ห้องเลขที่ 1606 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตทปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2546 ภายใต้ชื่อ “บริษัท ชินคาร่า จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียนที่ชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2546 นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ได้เข้ามาซื้อหุ้น และทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนโดยชำระเต็มมูลค่าเป็นเงิน 10 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

  • ปี พ.ศ.
    เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในรอบปี
  • 2546

    จัดตั้ง บริษัท ชินคาร่า จำกัด

  • 2547

    เริ่มดำเนินงานโครงการไฟคัส เลน

  • 2550-2551

    จัดตั้งบริษัท วาย แอล พี จำกัด (“วาย แอล พี”) เพื่อพัฒนาโครงการภายใต้ชื่อ ศาลาแดง เรสซิเดนเซส

    จัดตั้ง บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด (“เพซวัน”) บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทู จำกัด (“เพซทู”) บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด (“เพซทรี”) เพื่อพัฒนาโครงการมหานคร ในรูปแบบผสมผสาน (มิกซ์-ยูส) และ บริษัท เพซ เรียลเอสเตท จำกัด (“พีอาร์อี”) เพื่อเป็นบริษัท โฮลดิ้ง และได้เข้าถือหุ้นในเพซวัน เพซทู และ เพซทรี

  • 2554

    ปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่มบริษัทฯ ใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

    เปลี่ยนสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดและได้จดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 600 ล้านบาท เพื่อเตรียมเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE

  • 2556

    เปิดตัวโครงการมหาสมุทร (MahaSamutr) ที่หัวหิน ซึ่งเป็นโครงการแบบผสมผสานที่รวบรวมวิลล่าตากอากาศพร้อมด้วย มหาสมุทร คันทรี่ คลับ

    จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยทุนจดทะเบียน จำนวน 2,054.3 ล้านบาท พร้อมทั้งเข้าซื้อหุ้นและรับโอนสิทธิการรับชำระเงินกู้และดอกเบี้ยค้างชำระจากบริษัทร่วม คือ ไอบีซี ไทยแลนด์ และ ไอดีเจ โฮลดิ้ง ทำให้พีอาร์อี เพซวัน เพซทู และ เพซทรี กลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยมีสัดส่วนการเป็นเจ้าของ (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) เป็นประมาณร้อยละ 68

    เริ่มก่อสร้างโครงการมหาสมุทร ที่หัวหิน

  • 2557

    ซื้อที่ดินและเปลี่ยนกรรมสิทธิ์การถือครองในโครงการมหานคร จากรูปแบบการเช่าระยะยาว หรือลีสโฮลด์ (Leasehold) เป็นแบบถือครองกรรมสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ หรือฟรีโฮลด์ (Freehold)

    จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท เพซ คันทรี่ คลับ จำกัด และ บริษัท เพซ ฟู้ด รีเทล จำกัด

    ซื้อกิจการทั้งหมดของ ดีน แอนด์ เดลูก้า แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ชั้นนำของโลกมูลค่า 140 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

  • 2558

    เปิดขายโครงการนิมิต หลังสวน อย่างเป็นทางการ

    ซื้อหุ้นของ เพซวัน เพซทู เพซทรี และ พีอาร์อี ส่วนที่เหลือทั้งหมดจาก ไอบีซี ไทยแลนด์ และ ไอดีเจ โฮลดิ้ง

    จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 542.7 ล้านหุ้น เพื่อตอบแทน IBC และ IDJ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 3.39 บาท

    ซื้อกิจการในบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยทำสัญญาซื้อหุ้นทั้งหมดและรับโอนสิทธิการรับชำระเงินกู้ใน D&D Thailand จากนายสรพจน์ เตชะไกรศรี รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 240 ล้านบาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 64,690,027 หุ้น เพื่อชำระแก่นายสรพจน์ เตชะไกรศรี มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 3.71 บาท

    เพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท

    ได้รับเงินวงเงินกู้ยืมเพื่อพัฒนาโครงการใหม่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์จากสถาบันการเงินในประเทศจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,090 ล้านบาท

  • 2559

    จัดงาน “The Sound of MahaSamutr” (เดอะ ซาวด์ ออฟ มหาสมุทร) เปิดตัวบ้านตัวอย่างซึ่งประกอบด้วย “โครงการ มหาสมุทร วิลล่า” บ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์แบบฟรีโฮลด์ และ มหาสมุทร ลากูน ทะเลสาบแมน-เมดส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

    จัดตั้งการร่วมค้าในนาม “บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า คาเฟ่ เจแปน จำ กัด” (Dean & DeLuca Café Japan Co.,Ltd.)

    จัดตั้งบริษัทย่อย “บริษัท เพซ แมเนจเมนท์ จำกัด”

    เริ่มก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรีแห่งใหม่ โครงการ “นิมิต หลังสวน” บนที่ดินฟรีโฮลด์ทำเลทองถนนหลังสวน

    จัดตั้งบริษัทย่อย จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ D&D Mount Limited และ D&D Fourteen Limited

    ได้รับวงเงินกู้ยืมเพื่อขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” จากสถาบันการเงินในประเทศจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1.1 พันล้านบาท

    จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 176.3 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 3.00 บาท เพื่อเป็นการตอบแทน Bell Investments Limited และ Asension Trading Limited ที่นำที่ดินในตำบลนิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มาชำระเป็นค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ดังกล่าวแทนการชำระด้วยเงินสด

    จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในรูปแบบ Private Placement (PP) หรือการขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดจำนวน 320 ล้านหุ้นมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 3.00 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 960 ล้านบาท ให้กับผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศทั้งหมด

    จัดงาน “MahaNakhon Bangkok Rising: The Night Of Lights” (มหานคร ไนท์ ออฟ ไลท์) ฉลองการก่อสร้างแล้วเสร็จของโครงการมหานคร ตึกที่สูงที่สุดในไทย ด้วยความสูง 314 เมตร 77 ชั้น อย่างเป็นทางการ

    อนุมัติการจัดตั้ง Dean & DeLuca Small Format Lq. LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์

  • 2560

    จัดตั้งบริษัทย่อย “บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า แอร์พอร์ต จำกัด”

    ได้รับเงินลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 8,441.2 ล้านบาท จากอพอลโล เอเชีย สปรินท์ โฮลดิ้ง คอมปานี ลิมิเต็ด โกลด์แมน แซคส์ อินเวสท์เม้นท์ส โฮลดิ้งส์ (เอเชีย) ลิมิเต็ด และเมอร์เซอร์อินเวสเมนท์ส (สิงคโปร์) พีทีอี ลิมิเต็ด โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทย่อยของบริษัท คือ บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด (“เพซ วัน”) และ บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด (“เพซ ทรี”) รวมทั้งสิ้นจำนวน 7,783.2 ล้านบาท และได้รับเงินจากการกู้ยืมเพื่อการพัฒนาและดำเนินการโครงการมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 658 ล้านบาท

    จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights offering) จำนวนไม่เกิน 7,516,056,394 หุ้น และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ รุ่นที่ 1 จำนวนไม่เกิน 1,503,211,278 หน่วย และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัทฯ รุ่นที่ 2 จำนวนไม่เกิน 2,505,352,131 หน่วย พร้อมกับเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private placement) จำนวน ไม่เกิน 1,500,000,000 หุ้น

  • 2561

    จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private placement) คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 400,000,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.51 บาท

    เข้าซื้อหุ้นที่อพอลโล เอเชีย สปริ้นท์ คอมปานี ลิมิเต็ด และโกลด์แมน แซคส์ อิน เวสเมนท์ส โฮลดิ้งส์ (เอเชีย) ลิมิเต็ด ถืออยู่ใน เพซวัน และ เพซทรี จำนวนร้อยละ 49.00 และร้อยละ 48.72 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทดังกล่าวตามลำดับ ทั้งหมด รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 320 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน 10,000 ล้านบาท

    ได้รับเงินจากการจำหน่ายทรัพย์สินจำนวนทั้งสิ้น 14,000 ล้านบาท จากบริษัท คิงเพาเวอร์ มหานคร จำกัด ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่ เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ โดยการจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท เพซ วัน และบริษัท เพซ ทรี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 12,800 ล้านบาท และบริษัทฯ ได้รับค่าตอบแทนในการจัดหาผู้ซื้อทรัพย์สินและเจรจาต่อรองกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง บริหารและดำเนินการเพื่อให้รายการจำหน่ายทรัพย์สินแล้วเสร็จเป็นมูลค่าไม่เกิน 1,200 ล้านบาท

    การเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นในบริษัทย่อย โดย บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด (“DDAT”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ทางอ้อมของบริษัทฯ ถืออยู่ในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า แอร์พอร์ต จำกัด (“DDAP”) จากกลุ่ม ผู้ถือหุ้นอื่น ภายหลังจากการซื้อหุ้นดังกล่าว มีผลทำให้ DDAT เป็นผู้ถือหุ้นใน DDAP คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100

    เลิกและชำระบัญชีบริษัท เพซ ครีเอทีฟ เอเจนซี่ จำกัด

    จัดตั้งบริษัทย่อยจำนวน 3 บริษัท ได้แก่

    1. บริษัท DEAN & DELUCA ASIA (SINGAPORE) PTE. LTD. ในประเทศสิงคโปร์
    2. บริษัท Dean & DeLuca Consumer China (HK) Co., Limited ในเขตการบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
    3. บริษัท Dean & DeLuca China (HK) Co., Limited ในเขตการบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

    เข้าทำสัญญาเพื่อกำหนดกรอบข้อตกลงเกี่ยวกับการดำเนินกิจการแฟรนไชส์ของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ในสาธารณรัฐประชาชนจีนกับ Kinghill Overseas Holding Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือเจริญโภคภัณฑ์ และลงนามในสัญญาให้สิทธิแฟรนไชส์หลัก ร้าน แฟรนไชส์ ดีน แอนด์ เดลูก้า ในประเทศไทยกับบริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อให้สิทธิแฟรนไชส์แต่เพียงผู้เดียว

    จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private placement) คือ Asia Alpha Equity Fund 2 จำนวน 500,000,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.58 บาท

    อนุมัติให้ DDAT เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ DDAP

    ทำสัญญาเพื่อดำเนินกิจการแฟรนไชส์ของ ดีน แอนด์ เดลูก้า กับ Lagardère Travel Retail ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรม ธุรกิจค้าปลีก ร้านค้าปลอดภาษี และการค้าปลีกอื่นๆ ในสนามบิน สถานีรถไฟ และจุดท่องเที่ยวทั่วโลก ให้สิทธิแฟรนส์ไชส์แก่ Lagardère Travel Retail แต่เพียงผู้เดียวในการเปิดและบริหารจัดการร้าน ดีน แอนด์ เดลูก้า ในพื้นที่ค้าปลีกภายในสนามบิน ต่างๆ ทั่วโลกโดยมีเป้าหมายในการขยายสาขา ดีน แอนด์ เดลูก้า 150 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี

  • 2562

    อนุมัติให้ขายหุ้นร้อยละ 50 ในบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า คาเฟ เจแปน จํากัด (Dean & Deluca Cafe Japan Co., Ltd) ซึ่งถือโดย Dean & DeLuca International, LLC. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ

    จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจํานวนไม่เกิน 8,025,793,914 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราการจัดสรรหุ้น 3 หุ้นสามัญ เดิมต่อ 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 0.25 บาท และจัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ รุ่นที่ 3 จํานวนไม่เกิน 4,012,896,957 หน่วย

    อนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อย Dean & DeLuca International (Singapore) Pte Ltd. เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างและการขยาย ธุรกิจ

    บริษัทฯ ได้รับหนังสือบอกกล่าวให้ชําระหนี้จากธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) โดยเรียกให้บริษัทฯ ชําระหนี้ที่ผิดนัดชําระหนี้ตามสัญญาสินเชื่อหมุนเวียนซึ่งมีตั๋วสัญญาใช้เงินประกอบ (P/N) มีวงเงินสินเชื่อ 1,200,000,000 บาท และสัญญาสินเชื่อหมุนเวียนซึ่งมีตั๋วสัญญาใช้เงินประกอบ (PN) มีวงเงินสินเชื่อ 1,800,000,000 บาท และ 13,500,000 เหรียญสหรัฐคิดเป็น 448,650,000 บาท

    จําหน่ายหุ้น ทั้งหมดที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัท วายแอล พี จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในราคา 348,567,548 บาท ให้กับบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) และบริษัท เอ็มซีแอล พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด

    บริษัทฯ เข้าทําสัญญาโอนทรัพย์สินที่ชําระหนี้กับธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) โดยบริษัทฯ นําที่ดินที่ตั้งอยู่ตําบลนิเซโกะ ประเทศญี่ปุ่นมาที่ชําระหนี้ เพื่อชําระเงินกู้ยืมเป็นจํานวนไม่น้อยกว่า 15,200,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็น 453,264,000 บาท